เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2025 มีไฟป่าขนาดใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ลอสแองเจลิส โดยเฉพาะในเขต Malibu และ Pacific Palisades ซึ่งส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและทรัพย์สินมูลค่าสูงในพื้นที่นี้ ไฟป่าเหล่านี้ลุกลามอย่างรวดเร็วจากลม Santa Ana ที่พัดแรง และสร้างความเสียหายอย่างมาก
รวมถึงทำให้คุณภาพอากาศในพื้นที่ลดลงถึงระดับ “ไม่ดีต่อสุขภาพ” ในหลายพื้นที่ เช่น Pasadena, Altadena และตัวเมืองลอสแองเจลิส
เดี๋ยวเราไปดูกันครับว่า ทำไมไฟป่าที่ลอสแองเจลิสถึงได้เกิดการลุกไหม้อย่างรวดเร็วและขยายเป็นวงกว้างได้มากขนาดนี้
ผลกระทบของไฟป่าลอสแองเจลิส
สนามบิน Burbank ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกและล่าช้าของเที่ยวบิน ในขณะที่สนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส (LAX) ยังคงเปิดทำการแต่มีเที่ยวบินบางส่วนได้รับผลกระทบเล็กน้อย
ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยระบุว่าไฟป่าเหล่านี้อาจนำไปสู่ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และอาจทำให้เบี้ยประกันภัยในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อไฟป่าเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทประกันภัยจะเริ่มใช้โมเดลที่สะท้อนความเสี่ยงได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ไฟป่าที่กำลังลุกลามในขณะนี้ส่งผลกระทบเป็นบริเวณวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 17,000 เอเคอร์ (ประมาณ 6,880 เฮกตาร์) หรือเทียบเท่ากับ 68.8 ตารางกิโลเมตรครับ ลองนึกภาพว่าใน 68 กิโลเมตรมีบ้านเรือนอยู่กี่หลัง และมีสถานประกอบการต่างๆ หรือแม้กระทั่งโรงเรียน ทั้งหมดนี้ได้ถูกไฟเผาไปเรียบร้อยแล้วครับ
- เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 มาเลยครับ
ทำไมที่ Malibu ถึงเกิดไฟป่าขึ้นได้
- สภาพอากาศ
- ลม Santa Ana: ลมที่พัดแรงจากภูเขามาสู่ชายฝั่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงต้นฤดูหนาว ส่งผลให้ความชื้นลดลง และอากาศแห้งร้อนขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการลุกลามของไฟป่า
- ฤดูแล้ง: แคลิฟอร์เนียประสบปัญหาฤดูแล้งที่ยาวนานในหลายปี ทำให้พืชพรรณแห้งและเป็นเชื้อไฟที่ดี
- อุณหภูมิสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ภาวะโลกร้อนทำให้อากาศร้อนยาวนานขึ้นและเพิ่มความรุนแรงของไฟป่า
- พื้นที่ป่าและพืชพรรณที่แห้งง่าย
- ชนิดของพืชในแคลิฟอร์เนีย: พืชที่พบในภูมิภาค เช่น หญ้าแห้ง และไม้พุ่ม (Chaparral) เป็นพืชที่ติดไฟได้ง่าย
- ปริมาณเชื้อไฟสะสม: การสะสมของวัสดุอินทรีย์ เช่น ใบไม้และกิ่งไม้แห้งในพื้นที่ป่าเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟ
- เมื่อเกิดไฟขึ้นแล้ว ของสะสมวัสดุอินทรีที่แห้ง ก็ย่อมติดไฟอย่างรวดเร็วครับ ทำให้เกิดการลามไปเป็นวงกว้าง
- กิจกรรมของมนุษย์
- เหตุการณ์ที่เกิดจากคน: เช่น การตั้งแคมป์ การสูบบุหรี่ หรือสายไฟฟ้าที่ขัดข้อง เป็นสาเหตุของไฟป่าหลายครั้ง
- การขยายตัวของพื้นที่อยู่อาศัย: บ้านเรือนที่สร้างใกล้กับพื้นที่ป่าธรรมชาติ เพิ่มโอกาสที่ไฟป่าจะลุกลามมาสู่ชุมชน
- ภูมิประเทศที่เอื้อต่อการลุกลาม
- พื้นที่ภูเขา: ลอสแองเจลิสตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีภูเขาและหุบเขา ทำให้ไฟลุกลามได้รวดเร็วเนื่องจากแรงลม
- ภูมิประเทศแห้ง: พื้นที่แห้งแล้งช่วยเร่งการลุกลามของไฟ
- เรียกว่าหนุนกันสุดๆครับ พื้นที่ภูเขาที่มีลมแรง และยังเป็นพื้นที่แห้งแล้งอีกต่างหาก ขอแค่เพียงเกิดไฟขึ้น 1 จุด ก็สามารถลามไปทั่วเมืองได้ทันทีครับ
สรุปแบบง่ายๆไม่เกิน 8 บรรทัด
เพราะแถวนั้นมีลมแรง บวกกับอากาศที่แห้ง และมีความชื้นลดลง ทำให้เกิดการติดไฟขึ้นมา จากนั้นสภาพแวดล้อมบริเวณดังกล่าวมีพืชพันธ์ หรือสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลามของไฟ เช่น หญ้าแห้ง เป็นต้น
พอลมพัดแรง และมีของแห้ง : การลุกลามของไฟก็ทำได้ง่ายขึ้น จนเกิดเป็นไฟป่าตามที่เห็นในข่าวนั่นเองครับ
ต้องใช้เวลานานไหมกว่าไฟป่าลอสแองเจลิสจะดับ
เวลาที่ใช้ในการดับไฟป่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของไฟ, สภาพอากาศ, ภูมิประเทศ, และการเข้าถึงของทีมดับเพลิง โดยปกติแล้วไฟป่าที่ลุกลามไปในพื้นที่กว้างอาจใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์กว่าจะดับลงอย่างสมบูรณ์ การที่มีลมแรงหรืออุณหภูมิสูงทำให้ไฟลุกลามเร็วและทำให้การดับไฟยากขึ้นครับ
ถ้าอ้างอิงจากเหตุการ์ในอดีต ตัวอย่างเช่น การระบาดของไฟที่ Malibu ในปี 2020 ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการควบคุมเช่นกันครับ ก็คงตอบได้ว่า : น่าจะเป็นหลักสัปดาห์ครับ